จอภาพของ Xiaomi 13 มีขนาด 6.36 นิ้ว ซึ่ง Xiaomi ให้ความสำคัญกับความบางของขอบหน้าจอเป็นพิเศษ และพยายามทำให้เกิดความสมมาตรมากที่สุด โดยที่ขอบด้านบนและด้านข้างมีความหนาเพียง 1.61 มม. ในขณะที่ขอบด้านล่างมีความหนาเพียง 1.81 มม.
สำหรับพาเนลที่ใช้เป็นชนิด OLED วัสดุเปล่งแสง E6 อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz สามารถปรับลงมาเหลือ 60 และ 30Hz ให้สอดคล้องกับคอนเทนต์โดยอัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตได้ จุดที่พัฒนาจากรุ่นก่อนคือ ความเที่ยงตรงของสีที่เพิ่มขึ้นเป็น 0.36 หน่วยตามมาตรฐาน deltaE และความสว่างสูงสุดที่เพิ่มขึ้นเป็น 1900 นิต นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลทั้ง HDR10, HDR10+, Dolby Vision และ HLG
Xiaomi ได้ร่วมมือกับ Leica ในการพัฒนาเทคโนโลยี Xiaomi Image Brain 2.0 ซึ่งเกี่ยวข้องกับอัลกอริทึมและเอนจินประมวลผลภาพ ส่งผลให้ภาพมีสีสันสดสวยสมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Leica Ultra Color แล้ว Xiaomi 13 ยังสามารถจับแสงได้กว้างขึ้น 25% ครอบคลุมช่วงสี DCI-P3
ยิ่งไปกว่านั้น Xiaomi 13 ยังมาพร้อม ProFocus ระบบโฟกัสแบบใหม่ที่มีการผสานการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ลงไป ทำให้สามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและติดตามวัตถุได้แน่นหนึบ จากคุณสมบัติรู้จำดวงตาและใบหน้าของมนุษย์ รวมถึงดวงตาของสัตว์และแมลง และการแยกแยะวัตถุต่าง ๆ ได้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิป Snapdragon 8 Gen 2 ประกบคู่มากับ ROM UFS 4.0 256GB และ RAM LPDDR5x สูงสุด 12GB ในแง่ของการออกแบบภายใน Xiaomi 13 มีการปรับปรุงเช่นกัน จากการขยายพื้นที่ของแผงกราฟีนและ VC ให้ครอบคลุม 42.5% ของตัวเครื่อง ซึ่ง Xiaomi เรียกว่า Xiaomi Dynamic Performance Scheduling 2.0 พร้อมเคลมว่าสามารถเล่นเกมได้ต่อเนื่องโดยที่เฟรมเรตแทบไม่แกว่งเลย
ตัวเครื่อง Xiaomi 13 ใช้วัสดุกรอบตัวเครื่องแบบอลูมิเนียมอัลลอยขัดเงา ด้านหลังใช้วัสดุกระจกที่นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่ดี จับถนันมือ ตัวเครื่องมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ และสีเขียวอ่อน Flora Green
สเปค Xiaomi 13 Pro
สำหรับ Xiaomi 13 Pro จะใช้ภาษาการออกแบบในลักษณะเดียวกับ Xiaomi 13 แต่แตกต่างกันเล็กน้อยตรงส่วนขอบด้านข้างของหน้าจอและฝาหลัง เพราะเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์แบบโค้ง Pro HDR Display
โดยหน้าจอมีขนาดอยู่ที่ 6.73 นิ้ว คุณสมบัติด้านการแสดงผลจะเหนือกว่ารุ่นมาตรฐานในบางส่วน เช่น เทคโนโลยี LTPO ที่รองรับอัตรารีเฟรชตั้งแต่ต่ำสุดคือ 1Hz ไปจนถึง 120Hz และความลึกสีระดับ 10-bit ทำให้มีขอบเขตสีกว้างระดับ DCI-P3 และความละเอียดที่มากกว่า
กล้องหลังของ Xiaomi 13 Pro มีความละเอียด 50MP เท่ากันทั้งหมด กล้องหลักใช้เซนเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้วของ Sony ซึ่งมีขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 3.2μm จากเทคโนโลยีรวมพิกเซล 4-in-1 กล้องที่เหลืออีก 2 ตัว ประกอบด้วยกล้องอัลตราไวด์ มุมกว้าง 115 องศา และกล้องเทเลโฟโต ระยะซูมออปติคัล 3.2 เท่า ระยะซูมดิจิทัล 70 เท่า รองรับการโฟกัสระยะใกล้สุดที่ 10 และ 5 ซม. ตามลำดับ ใช้งานเป็นเลนส์มาโครได้ในตัว
Xiaomi เคลมว่าเลนส์กล้องหลักของ Xiaomi 13 Pro จะมีอัตราการสะท้อนแสงต่ำเป็นพิเศษจากการเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถันและเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ALD แบบชิ้นต่อชิ้น และมีการใส่ฟิลเตอร์ IR เข้ามาที่ส่วนท้ายสุดของเลนส์ ซึ่งอะไรทั้งหลายเหล่านี้ช่วยให้ระบบกล้องสามารถรับแสงได้ดีขึ้น และในขณะเดียวกันก็ลดความคลาดสีให้ต่ำลง
Xiaomi 13 Pro มากับแบตเตอรี่ 4820mAh รองรับชาร์จไว 120W ชาร์จไร้สาย 50W ชาร์จแบตจาก 0 ถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 19 และ 36 นาทีตามลำดับ นอกจากนี้ยังรองรับการจ่ายไฟย้อนกลับไปชาร์จให้อุปกรณ์ที่ 10W ด้วย สำหรับตัวเครื่องในรุ่นนี้มาแค่ 2 สี ได้แก่ สีดำ Ceramic Black และสีขาว Ceramic White